ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตาต้อกระจก

หากว่าเอ่ยถึงโรคต้อกระจก เชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนคงคิดเหมือนกันใช่หรือไม่ว่าเป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรงมากพอสมควร หากปล่อยให้ต้อสุก อาจจะนำมาสู่อาการของโรคต้อหินและตาบอดได้ อย่างไรก็ดีอาการของโรคต้อกระจก และข้อมูลเกี่ยวกับโรคต้อกระจกนั้นมีหลายต่อหลายโรคที่หลายๆ คนควรใส่ใจและให้ความสำคัญ มาดูกันดีกว่าว่าความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตาต้อกระจกมีอะไรบ้าง 

1.ตาต้อกระจกไม่เกี่ยวกับอายุ 

ความเข้าใจผิดแรกได้แก่ คนมักเข้าใจว่าตาต้อกระจกไม่เกี่ยวกับอายุ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วต้อกระจกนั้นเกี่ยวข้องกับอายุมากที่สุด โดยส่วนมากคนที่ป่วยด้วยโรคนี้จะอายุ 40 ปีขึ้นไป และมักจะเป็นเพราะความเสื่อมของโปรตีน โดยจะทำให้เลนส์ตาขุ่นและแข็งกว่าเดิม พบได้ในคนที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ดี คุณอาจจะพบได้ในกลุ่มอายุน้อยเช่นเดียวกัน ได้แก่ ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดจากมารดาที่ติดเชื้อหัดเยอรมันตอนที่ตั้งครรภ์นั่นเอง 

2.อาการต้อกระจกสามารถสู้แสงสว่างได้ 

บางคนมักจะเข้าใจไปว่าคนที่ป่วยด้วยโรคต้อกระจกนั้นดวงตาจะสู้แสงสว่างได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น คนที่ป่วยด้วยโรคนี้จะมองเห็นแสงไฟกระจัดกระจาย ยิ่งตอนขับรถในช่วงกลางคืน นอกจากนี้อาจจะมองเห็นสีต่างผิดเพี้ยนไปจากเดิม และต้องการแสงสว่างมากยิ่งขึ้นในการมอง นอกจากนี้เมื่อต้อกระจกสุก อาจจะเห็นเป็นสีขาวที่รูม่านตาโดยปกติที่จะเห็นเป็นสีดำ โดยในกรณีที่ละเลยไว้จนต้อสุก อาจจะทำให้เกิดการอักเสบในตา ทำให้ตาแดง ปวดตา และบางครั้งอาจจะเกิดเหตุการณ์ถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นได้อีกด้วย 

3.การสลายต้อเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก 

ความเข้าใจของหลายๆคน คือมักจะคิดว่าการสลายต้อกระจกด้วยเครื่องสลายต้อนั้นเป็นวิธีที่ทำได้ยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยแผลที่กระจกตาเล็กแค่เพียง 3 มิลลิเมตร โดยที่แพทย์จะสอดเครื่องมือสลายต้อไปที่ตัวต้อกระจก อีกทั้งยังใช้พลังงานความถี่สูงเท่ากับระดับอัลตราซาวนด์เพื่อเข้าไปสลายต้อกระจกแล้วใส่แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ แผลจึงมีขนาดเล็กมาก และไม่ต้องเย็บแผลในคนไข้ส่วนใหญ่อีกด้วย 

และนี่ก็คือความเข้าใจผิดที่หลายๆ คนควรทำความเข้าใจอีกครั้งว่าการจะรักษาโรคต้อกระจกนั้นมีอะไรบ้าง หากจะให้ดีควรพยายามศึกษาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้การรักษาโรคต้อกระจกของคุณเกิดประโยชน์อีกทั้งยังหายดีไม่เกิดโรคแทรกซ้อนอีกด้วยนั่นเอง เหมาะกับการศึกษาเพื่อทำการรักษาหรือก่อนไปพบแพทย์ 

Marilyn Ramos

Marilyn Ramos