วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วย

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเป็นวิธีช่วยผู้ป่วยที่มีอาการไอหรือมีเสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก ไม่สามารถไอเสมหะออกมาได้เอง เป็นการช่วยระบายเสมหะออกจากทางเดินหายใจ เพื่อให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวกขึ้น

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเป็นกระบวนการที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ป่วยได้ หากผู้ดูดเสมหะไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดเสมหะ ได้แก่

  • ภาวะขาดอากาศหายใจ
  • บาดเจ็บที่หลอดลมหรือปอด
  • ติดเชื้อ

ดังนั้น ผู้ดูดเสมหะจึงควรมีความรู้และทักษะในการดูดเสมหะอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดูดเสมหะ

ขั้นตอนวิธีดูดเสมหะผู้ป่วยอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

  1. เตรียมอุปกรณ์
  • เครื่องดูดเสมหะ
  • สายดูดเสมหะ
  • ถุงมือ
  • ผ้าปิดปาก
  • หน้ากาก
  • สำลี
  • ภาชนะใส่เสมหะ

ผู้ดูดเสมหะควรตรวจสอบอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานก่อนทำการดูดเสมหะ

  1. เตรียมผู้ป่วย
  • แจ้งให้ผู้ป่วยทราบถึงขั้นตอนและวัตถุประสงค์ของการดูดเสมหะ
  • จัดท่านอนผู้ป่วยให้เหมาะสม กรณีผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ ให้จัดท่านอนคว่ำหน้า
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ
  • สวมถุงมือ ผ้าปิดปาก และหน้ากาก
  1. ดูดเสมหะ
  • ใส่สายดูดเสมหะเข้าไปในช่องปากหรือท่อช่วยหายใจของผู้ป่วย โดยค่อย ๆ ดันสายเข้าไปจนสุด
  • เปิดเครื่องดูดเสมหะและดูดเสมหะออก โดยปิดสายดูดเสมหะประมาณ 10-15 วินาทีต่อครั้ง และหยุดพักประมาณ 20-30 วินาทีก่อนดูดครั้งต่อไป
  • ปิดเครื่องดูดเสมหะและดึงสายดูดเสมหะออก
  • ทิ้งเสมหะลงในภาชนะที่เตรียมไว้
  1. ทำความสะอาดอุปกรณ์

เมื่อทำการดูดเสมหะเสร็จแล้ว ผู้ดูดเสมหะควรทำความสะอาดอุปกรณ์ให้สะอาดตามคำแนะนำของผู้ผลิต

ข้อควรระวังในการดูดเสมหะผู้ป่วย

  • ควรดูดเสมหะออกอย่างนุ่มนวล เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บ
  • ไม่ควรดูดเสมหะติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก
  • ห้ามใช้แรงดันในการดูดสูงเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ
  • หลังการดูดเสมหะ ควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป

วิธีดูดเสมหะผู้ป่วยเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญต่อผู้ป่วยที่มีอาการไอหรือมีเสมหะอุดกั้นทางเดินหายใจ ผู้ดูดเสมหะควรมีความรู้และทักษะในการดูดเสมหะอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดูดเสมหะ

Marilyn Ramos

Marilyn Ramos